วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

ศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินมหาวิทยาลัยมหาสาคาม









ตะลึง พบแอ่ง ไดโนเสาร์ “ โปรซอโรพอด ” ชนิดกินพืชที่ภูกระดึง เจอชิ้นส่วนสมบูรณ์กว่า 30 ชิ้นครั้งแรกในไทย คาดเป็นชนิดใหม่ของโลกรอการยืนยันอีก 2 ปี ทีมวิจัยเตรียมลุยต่อจิ๊กซอร์ 5 แหล่งค้นพบแถบอีสานเหนือ หลังพบทั้งรอยเท้า และชิ้นส่วนไดโนเสาร์กระจายเป็นวงกว้าง (7ก.ย.) ดร.วราวุธ สุธีธร ผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์ กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า หลังจากมีการค้นพบชิ้นส่วนกระดูกท่อนหัวไหล่ไดโนเสาร์ซอโรพอด ขนาด 1.65 ซม. ที่ภูน้อย จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นการค้นพบชิ้นส่วนซอโรพอดชิ้นใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวยังเจอซากฟอสซิลอื่นๆ เช่น จระเข้ เต่า ปลาโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่า การที่มีสัตว์หลากชนิดรวมทั้งไดโนเสาร์มานอนตายอยู่ในแอ่งเดียวกัน ในสมัยโบราณพื้นที่นี้อาจเป็นร่องแม่น้ำขนาดใหญ่ เมื่อเกิดน้ำไหลหลาก ทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวถูกไหลตามน้ำแล้วมากองรวมกันในสถานทีเดียวกัน ซึ่งน่าสนใจที่จะต้องมีการไขปริศนาต่อไป หลังจากการค้นพบดัง กล่าว นักวิจัยได้ตีวงสำรวจซากดึกดำบรรพ์ครอบคลุมหมวดหินชั้นน้ำพอง ครอบคลุม อ.ภูกระดึง จ.เลย คำม่วง กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สกลนคร มุกดาหาร เพื่อต่อจิ๊กซอว์ และแผนที่แอ่งไดโนเสาร์ในพื้นที่ภาคอีสาน จนกระทั่งได้มีการค้นพบท่อนชิ้นส่วนกระดูกท่อนขาบนของไดโนเสาร์โปรซอโรพอด ( Prosauropod ) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ชนิดกินพืช ฟันมีรอยหยักแบบเลื่อย คอยาว เท้าหน้ามีขนาดค่อนข้างเล็กกว่าเท้าหลังและล่าสุดได้มีการค้นพบ 5 แหล่งใหม่ที่มีซากไดโนเสาร์อยู่ในชั้นหินน้ำพอง ประกอบด้วย 1.ภูน้อย 2.ภูผาเทิบ 3.ภูขวาง 4.ภูท่าสองคอน 5. ผากก ทั้ง 5 แหล่งอยู่ใน อ.ภูกระดึง จ.เลย ดร.วราวุธ กล่าวว่า สิ่งที่ค้นพบและถือเป็นเรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นก็คือพบชิ้นส่วนไดโนเสาร์โป รซอโรพอด เกือบครบทุกชิ้นส่วนราว 30 กว่าชิ้นในบริเวณนี้กระจัดกระจายกันอยู่ โดยก่อนหน้านี้เคยมีรายงานการค้นพบเพียงแค่ส่วนปล่ายนของกระดูกสะโพกส่วน หน้าของไดโนเสาร์ชนิดนี้ที่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี 2535 มาแล้ว แต่การค้นพบครั้งนี้ เป็นการค้นพบที่สมบูรณ์มากที่สุดและเกือบครบทุกชิ้นส่วนในแหล่งดังกล่าว กระจัดกระจาย โดยเฉพาะขาท่อนบน กระดูกโครงสันหลัง ที่บริเวณภูขวาง เบื้อง ต้นสันนิฐานว่า เป็นไดโนเสาร์ เก่าที่สุดในประเทศไทย อยู่ในเป็นช่วงไทรแอสซิกตอนปลายถึงยุคจูแรสซิกตอนต้น อายุในช่วงราว 209 ล้านปี นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งมีความต่างจากรอยตีนไดโนเสาร์ที่เคยค้นพบมาแล้ว เพราะมี 4 นิ้ว โดยนิ้วที่เพิ่มมามีลักษณะเหมือนเดือยของไก่ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักวิจัยได้เข้าไปขุดซากชิ้นส่วนที่เจอ นำมากลับมาวิจัยที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร เพื่อศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบกับไดโนเสาร์จากต่างประเทศในระดับโลกอยู่ดู ว่าโพไซโรพอดที่เจอล่าสุดจะอยู่ในกลุ่มไดโนเสาร์ประเภทใดหรืออาจจะเป็น ไดโนเสาร์ชนิดที่ยังยังไม่เคยค้นพบ ทั้งนี้ จะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปีจึงจะทราบผลที่แน่ชัด “ความน่าสนใจ ตั้งแต่มีการศึกษาไดโนเสาร์ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ในประเทศไทยเคยค้นพบไดโนเสาร์ที่อยู่ในช่วงที่มีอายุของจูแรสซิกมาแล้ว 16 ชนิด โดย 6 ชนิดคือชนิดใหม่ของโลกและอีก 5 ชนิดอยู่ในกลุ่มสกุลใหม่ของโลก โดยตัวที่เก่าที่สุดคืออิสานโนซอรัส อรรถวิภัชน์ชิ ที่ภูกุ้มข้าว จ.ชัยภูมิ แต่หลังจากนี้การค้นพบไดโนเสาร์ในกลุ่มโปรซอโรพอด ที่มีอายุเก่ายิ่งขึ้นจะทำให้เราสามารถเชื่อมต่อการค้นพบและเส้นทางของไดโน เสาร์ที่มีในประเทยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ได้มีการรวมกลุ่มของกรมทรัพยากรธรณี อาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ นักศึกษาปริญญาโท เพื่อมาจัดทำรายละเอียดเชิงลึกในหมวด หินชั้นน้ำพองและบริเวณภูกระดึง ” ดร.วราวุธ ระบุ วันเดียวกัน ใน งานประชุมวิชาการธรณีวิทยาและแหล่งแร่ไทย - ลาว นางพรทิพย์ ปั่นเจริญ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า กรมทรัพยากรธรณีและกรมธรณีศาสตร์ สปป . ลาว ได้ร่วมมือด้านวิชาการทางธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณีมาต้งแต่ปี 2545 โดยมีการร่วมกันสำรวจธรณีวิทยาและแหล่งแร่ในพื้นที่สปป . ลาว รวม 3 พื้นที่ ประกอบด้วยแขวงไชยะบุรี หลวงพระบาง และบ่อแก้ว ซึ่งเป็นรอยต่อใกล้กับ จ . เลย อุตรดิตถ์ และน่านของประเทศไทย และร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาในเส้นทางแขวงอัตปรือ จำปาศักดิ์ สะหวันนะเขต คำม่วง และบอลิคำไซ ใกล้กับจ . หนองคาย และอุบลราชธานี นอกจากนี้ได้ร่วมกันพัฒนาพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาที่กรุงเวียงจันทร์ สปป . ลาว เพื่อจัดแสดงแร่และซากดึกดำบรรพ์จากการค้นพบในการสำรวจธรณีวิทยาและแหล่งแร่ นอกจากนี้ยังร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น ล่าสุดกรมทรัพยากรธรณีและกรมธรณีศาสตร์ สปป . ลาว ได้ร่วมประชุมก่อนจะมีมติว่าจะทำแผนพัฒนาร่วมกันตั้งแต่ปี 2554-2558 โดยจะมีการจัดทำแผนธรณีวิทยาในสัดส่วน 1 ต่อ 5 แสน ที่สำคัญจะทำแผนท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่มีความโดดเด่นสวยงามเพื่อที่จะยก ระดับเป็นอุทยานธรณีวิทยาระดับโลก โดยในปี 2554 จะทำในเส้นทางมุกดาหาร – สะหวันนะเขต - คำม่วง ปี 2555-2556 จะทำเส้นทางหนองคาย - เวียงจันทร์ และปี 2557-2558 จะทำเส้นทางสายเลย - วังเวียง อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ภายใต้แผนพัฒนา 5 ปี ประเทศไทยและประเทศลาว ถือ เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างไทยลาวครบ 60 ปี โดยจะชูสโลแกนร่วมกันว่าธรณีวิทยาไม่มีพรมแดน โดยในการรับมอบครั้งนี้หวังว่าจะเกิดความร่วมมือในด้านของอุตสาหกรรม การค้า การท่องเที่ยว เพื่อที่จะสร้างรายได้ให้กับทั้ง 2 ประเทศด้วย โดยเฉพาะการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ทางธรณีวิทยา และการยกระบบอุทยานธรณีวิทยาให้ขึ้นสู่ระดับโลก ตลอดจนเส้นทางท่องเที่ยว 3 เส้นทาง ที่มา คม ชัด ลึก ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น